แชทขณะขับจับปรับจับจริง!!
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร เปิดเผยว่า เวลา 09.30 น.วันนี้ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา สบ 10 พร้อมด้วยคณะทำงานพัฒนาแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดใน กทม. กองบัญชาการตำรวจนครบาล และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยรวมถึงเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังรายใหญ่ในพื้นที่ กทม. จะผนึกกำลังความร่วมมือเดินหน้าแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดหน้าศูนย์การค้า โดยร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงมาตรการเชิงรุกแก้ไขปัญหาจราจรหน้าห้างสรรพสินค้าพร้อมแถลงผลสรุปการปฏิบัติมาตรการจับจริง 5 จอม ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 2 บก.จร. ถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมเปิดแถลงข่าวจับจริงผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์มือถือและแชทไลน์ขณะขับรถ โดยดีเดย์สั่งตำรวจจราจร 88 สน.และตำรวจ บก.จร.จับปรับจริง และบันทึกภาพผู้กระทำความผิดเป็นหลักฐานส่งใบสั่งจับปรับถึงบ้าน ซึ่งจะมีผลจับจริงจอมแชทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ตำรวจจราจรจะคุมเข้มวินัยจราจรผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุย หรือเล่นแชทเล่นไลน์ หรือดูข้อมูลอินเตอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือก็ตาม ถือว่ามีความผิดรวมถึงการนำที่วางมือถือยึดติดกับพวงมาลัยรถยนต์เพื่อใช้โปรแกรมแชทในขณะขับรถ เป็นการกระทำที่มีความผิดทั้งสิ้น ผู้ขับขี่ไม่สามารถกระทำได้ในขณะขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดใช้โทรศัพท์ขณะขับรถตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2551 มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนขณะขับรถ เว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา(สมอลล์ทอล์ค)เท่านั้น โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์ หากมีการใช้ที่ตั้งมือถือที่พวงมาลัยรถหรือสแตนดี้ ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะเป็นการรบกวนสมาธิในการขับรถอย่างมาก เนื่องจากต้องละสายตาจากท้องถนนเพื่อพิมพ์ข้อความและละมือข้างหนึ่งไปจากการควบคุมพวงมาลัยรถ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 400-1,000 บาท แต่กรณีวางมือถือที่สแตนดี้และเปิดเปิดลำโพงเสียงเพื่อสนทนานั้น ไม่ถือว่าเป็นความผิด ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับการใช้สมอลล์ทอล์ค
ที่มา www.bangkokbiznews.com